4 เหตุผลที่คุณควรลงแข่งขันพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ

"ทุกชัยชนะล้วนเริ่มต้นจากความพยายาม"

–ไมค์ คาร์ ผู้ชนะการแข่งขัน World Championship of Public Speaking ปี 2020 

หลายๆคนคงคุ้นเคยกับเวทีพูดในที่สาธารณะระดับโลกอย่าง Ted และ Tedx ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปออกมาพูดในหัวข้อที่กระตุ้นบทสนทนาและสร้างแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างมีความหมาย โดยถึงแม้การขึ้นพูดในเวทีเหล่านี้จะไม่มีการตัดสินแพ้-ชนะ แต่ก็ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้พูดในที่สาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย เช่นเดียวกับการเข้าร่วมแข่งขันพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ อย่างการแข่งขันการพูดในที่สาธารณะระดับโลกหรือ World Championship of Public Speaking ที่จัดขึ้นโดยโทสต์มาสเตอร์คลับ (Toastmaster Club) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนทักษะการสื่อสารผ่านการพูดในที่สาธารณะ โดยได้รับความนิยมสูงมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยถึงแม้การแข่งขันเหล่านี้จะมีเรื่องของความกดดันจากผลการตัดสิน แต่ก็ถือเป็นการท้าทายความสามารถ และยังเปิดโอกาสให้ผู้พูดได้พัฒนาศักยภาพโดยตรงจากคำแนะนำของกรรมการที่มีประสบการณ์ ในบทความนี้วันพับลิคขอชวนทุกคนมาดูว่าเราจะได้อะไรจากการเข้าร่วมการแข่งขันการพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ ที่รับรองว่าจะให้อะไรกับคุณมากกว่าถ้วยรางวัลแน่นอน

1.การแข่งขันสร้างแรงจูงใจในการฝึกฝน
ในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน ผู้พูดจะต้องฝึกซ้อมสปีชหลายๆ ครั้งจนกระทั่งสามารถพูดได้คล่องและจำเนื้อหาได้ขึ้นใจ โดยที่เมื่อถึงเวลาพูดจริง แทนที่จะเสียเวลาอ่านสคริปต์ พวกเขาจะสามารถมองผู้ฟังได้อย่างมั่นใจและแสดงท่าทางได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ในการฝึกฝน ผู้พูดอาจมีโอกาสทบทวนและพิจารณาเนื้อหาหรือท่าทางที่ใช้มากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการนำเสนอ เช่น การใช้พร็อพ (อุปกรณ์เสริม) ที่เหมาะสม น้ำเสียงที่ปรับเปลี่ยนให้ตรงกับอารมณ์ หรือการใช้สีหน้าและท่าทางที่ช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง 

การซ้อมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งช่วยให้การนำเสนอมีความน่าสนใจและมีความพอดีมากขึ้น ที่สำคัญที่สุด การมีการแข่งขันเป็นเป้าหมายช่วยให้การฝึกซ้อมมีระเบียบและมีทิศทางที่ชัดเจน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องตั้งเวลาในการฝึกซ้อมและติดตามผลการพัฒนาของตัวเอง ซึ่งช่วยให้เกิดการพัฒนาตัวเองอย่างจริงจังและมีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความรู้สึกท้าทายที่ทำให้ไม่หยุดยั้งในการฝึกซ้อม

ขอขอบคุณภาพจาก toastmasters.org

2.การได้เรียนรู้จากข้อเสนอแนะของกรรมการและผู้ชม
โดยทั่วไปแล้วในการจัดการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันประเภทใดมักจำเป็นต้องมีเกณฑ์การตัดสินที่แน่ชัดระบุไว้อยู่ก่อนแล้ว ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทราบอยู่ล่วงหน้าว่ามีจุดไหนที่ควรทำคะแนน หรือจุดไหนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ที่มากไปกว่านั้น หลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้น การได้รับข้อเสนอแนะจากกรรมการเป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้และพัฒนาในอนาคต กรรมการมักจะให้คำติชมที่มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง เช่น การพูดที่ยังไม่ชัดเจน การใช้ท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือการจัดเรียงเนื้อหาที่อาจทำให้ผู้ฟังสับสน ข้อเสนอแนะเหล่านี้เป็นการชี้แนะที่ช่วยให้ผู้แข่งขันรู้ว่าต้องปรับปรุงหรือพัฒนาในด้านใดบ้างเพื่อให้ดีขึ้นในการแข่งขันครั้งต่อไป 

นอกจากกรรมการแล้ว การได้รับข้อเสนอแนะจากผู้ชมก็เป็นประสบการณ์ที่สำคัญ ผู้ชมสามารถให้ความคิดเห็นในมุมมองที่แตกต่างจากกรรมการ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้แข่งขันเห็นมุมมองที่ตนเองอาจมองข้ามไป บางครั้งคำติชมจากผู้ชมอาจจะตรงไปตรงมามากกว่า และอาจช่วยให้ผู้แข่งขันเข้าใจวิธีการนำเสนอที่อาจไม่เข้าใจหรือไม่ถูกต้องในมุมมองของผู้ฟัง ซึ่งผู้พูดจะสามารถใช้คำแนะนำเหล่านั้นในการปรับปรุงทักษะของตัวเองให้ดีขึ้นได้ ที่สำคัญคือการยอมรับคำติชมและข้อเปรียบเทียบจากคนอื่นๆ แม้บางครั้งคำติชมอาจฟังดูไม่ดีหรือรู้สึกว่ามันเป็นการวิจารณ์ที่ทำให้รู้สึกแย่ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีในการเติบโต การสามารถรับคำแนะนำและทำการปรับตัวให้ดีขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพูดที่ดี เพราะการยอมรับคำวิจารณ์ไม่เพียงแค่ช่วยพัฒนาทักษะการพูดให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีความยืดหยุ่นและเปิดใจต่อการพัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน

ขอขอบคุณภาพจาก toastmasters.org

3.ค้นหาตัวตนและสร้างสัมพันธ์ใหม่ๆ 
ในยุคที่การทำงานและการเรียนมีการแข่งขันสูง การมีประสบการณ์จากการแข่งขันและการพัฒนาทักษะส่วนตัวสามารถช่วยให้เราไม่เพียงแต่ค้นพบความสามารถของตัวเอง แต่ยังช่วยสร้างการเชื่อมโยงกับผู้คนและโอกาสใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต การแข่งขันไม่ได้เป็นแค่การวัดผลหรือการชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีค่ากับผู้อื่น 

การเข้าร่วมการแข่งขันไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม สามารถช่วยให้เราค้นพบจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง การเผชิญหน้ากับความท้าทายและการทำงานภายใต้ความกดดันจะช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เราจะได้เรียนรู้ว่าเรามีทักษะอะไรที่โดดเด่นบ้าง และสิ่งไหนที่ต้องพัฒนา

 นอกจากนี้ยังสามารถค้นพบความสนใจที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน และนำไปสู่การพัฒนาตัวเองในทิศทางที่เหมาะสม นอกจากยี้การเข้าร่วมการแข่งขันไม่เพียงแค่ช่วยพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันเอง แต่ยังเป็นโอกาสในการฝึกฝนทักษะการสร้างเครือข่าย (Networking) และการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระหว่างการแข่งขันจะช่วยให้เราได้พบกับผู้ที่มีความสนใจเหมือนกันหรือมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ให้เราได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน การเชื่อมโยงกับคนเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ และเรียนรู้จากประสบการณ์ร่วมของผู้อื่น

 ขอขอบคุณภาพจาก toastmasters.org

4.สร้างสีสันและเพิ่มมูลค่าประวัติการทำงาน
ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันอาจไม่ใช่ตัวตัดสินทุกอย่างในการประเมินคุณค่าของผู้เข้าร่วม แต่ผลที่ออกมาก็สามารถสะท้อนถึงความทุ่มเทและความพยายามของผู้แข่งขันได้ ว่าพวกเขามีการเตรียมตัวหรือพัฒนาทักษะอย่างไรในการเผชิญกับการแข่งขันนั้นๆ ซึ่งในหลายๆ ครั้งมันแสดงให้เห็นถึงการฝึกฝน การวางแผน และการปรับตัวตามสถานการณ์ หากผู้เข้าแข่งขันสามารถคว้ารางวัลหรือทำผลงานดีในการแข่งขันนั้นๆ ผลที่ได้ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึงความสามารถของตนเอง แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ในการเปิดโอกาสในอนาคตจะช่วยเปิดโอกาสในการได้รับการพิจารณาในสถาบันการศึกษาชั้นนำ หรือองค์กรที่มีชื่อเสียง เพราะรางวัลหรือผลงานในกิจกรรมแข่งขันมักจะถูกมองว่าเป็นหลักฐานแสดงถึงความสามารถ และทักษะเฉพาะที่ผู้สมัครมี โดยเฉพาะการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับการพูดในที่สาธารณะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สะท้อนถึงการมีทักษะทางสังคมและการสื่อสารที่ดี การโน้มน้าวผู้ฟังไม่ได้หมายความแค่การมีความรู้หรือข้อมูลเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความสามารถในการปรับตัว การควบคุมอารมณ์ และการมีความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสาร ซึ่งทักษะเหล่านี้จะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับเรซูเม่ของผู้สมัคร

แม้ว่าการแข่งขันพูดสุนทรพจน์จะสามารถช่วยเสริมสร้างทักษะต่างๆ อีกทั้งช่วยพัฒนาผู้เข้าร่วมในหลายด้าน ทั้งความคิด การสื่อสาร การเรียนรู้จากผู้อื่น เป็นต้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในประเทศไทยยังหาเวทีการแข่งขันพูดสุนทรพจน์ได้ไม่มากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มช่วงวัย 10 ปี ทั้งนี้ที่ผ่านมาวันพับลิคได้มีการส่งนักเรียนของเราเข้าแข่งขันในรูปแบบออนไลน์หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศในการแข่งขัน WeVoi YoungsterVoi 2023 และ ผ่านเข้ารอบ 7 คนสุดท้ายในการแข่งขันการอ่านตีความใน the Asia Pacific Public Speaking Championships 2024 โดยนอกจากเด็กๆจะได้สร้างความภูมิใจให้กับสถาบันแล้ว ความสำเร็จของน้องๆยังเป็นเครื่องยืนยันว่าการแข่งขันพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษถือเป็นก้าวที่สำคัญที่น้องๆจะเก็บไปเป็นประสบการณ์และพัฒนาทักษะด้านอื่นๆต่อไป

ขอขอบคุณภาพจาก Youtube/WeVoi

About the author

Coach Poppy
A walking question mark, a vegan,
and a mother of 6 dogs.

ที่มา:

https://www.toastmasters.org/magazine/magazine-issues/2020/nov/the-true-value-of-speech-contests#:~:text=Contests%2C%20by%20their%20very%20nature,speaker%20starts%20to%20improve%20quickly.