46 จำนวนผู้เข้าชม |
ถ้าให้ทุกคนหลับตาแล้วนึกถึงนักธุรกิจที่มีภาพจำกลมกลืนกับภาพลักษณ์ของแบรนด์จนแยกจากกันแทบไม่ออก เรียกได้ว่าเมื่อนึกถึงแบรนด์ต้องนึกถึงผู้บริหาร และเมื่อได้ยินชื่อผู้บริหารภาพของแบรนด์ก็เด้งขึ้นมาในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชื่อของสตีฟ จอบส์ อดีตผู้บริหารบริษัทแอปเปิลคงติดโผหนึ่งในสามอันดับแรกแน่ๆ ทุกครั้งที่ต้องขึ้นพูดบนเวที ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าแอปเปิลหรือการขึ้นพูดบนเวทีสัมมนา จอบส์ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะท้อนความเรียบง่าย ซึ่งเข้ากับวิสัยทัศน์ของแบรนด์ นอกจากนี้ในงานแสดงสินค้าของแอปเปิล (Apple Event) จอบส์ไม่ได้เน้นขายสินค้าเท่านั้น หากแต่มากไปกว่านั้นเขายังขายวิสัยทัศน์ของอนาคต และนวัตกรรมใหม่ๆผ่านผลิตภัณฑ์ที่บริษัทกำลังมุ่งพัฒนา อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ในงานเปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกว่า
“วันนี้ แอปเปิล จะปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถือ”
(Today, Apple is going to revolutionize the phone industry.)
—สตีฟ จอบส์
กล่าวคือจอบส์เข้าใจดีว่า กลุ่มลูกค้าแอปเปิลไม่ได้ซื้อแค่สินค้า แต่พวกเขาซื้อความเชื่อและอุดมการณ์ที่แบรนด์สื่อสารออกมา ดังนั้นเขาจึงสื่อสารผ่านทั้งคำพูด และการแสดงออก เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเขาและแบรนด์แอปเปิล ในบทความนี้วันพับลิคขอชวนคุณมาถอดข้อสรุปบทความจากฟอบส์ ที่จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจ 3 เหตุผลที่การสร้างแบรนด์ผ่านการพูดในที่สาธารณะที่มีส่วนช่วยสำคัญในการต่อยอดธุรกิจของคุณ
1.สร้างความน่าเชื่อถือในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
การพูดในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการพูดบนเวทีจริงหรือผ่านช่องทางออนไลน์ ถือเป็นวิธีที่ทรงพลังในการสร้างภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญในสายงานและสินค้าของคุณ เพราะเมื่อคุณก้าวขึ้นไปนำเสนอข้อมูลหรือมุมมองที่ลึกซึ้งในเรื่องที่คุณถนัด ผู้ฟังจะรับรู้ว่าคุณมีความรู้และประสบการณ์ที่สามารถไว้วางใจได้
นอกจากนี้ การที่คุณสามารถอธิบายเรื่องที่ซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย หรือแบ่งปันแนวทางแก้ไขปัญหาที่นำไปปฏิบัติได้จริงซึ่งถือเป็นทักษะด้านวาทศิลป์ที่ต้องได้รับการฝึกฝน จะช่วยตอกย้ำว่าคุณเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้สร้างความน่าเชื่อถือในตัวบุคคล ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจของคุณโดยตรง เพราะในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ลูกค้ามักเลือกทำงานกับผู้ที่พวกเขาเชื่อมั่นว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญและสามารถแก้ปัญหาให้พวกเขาได้จริง
ความน่าเชื่อถือนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้ทางเทคนิค แต่รวมถึงการสื่อสารด้วยความมั่นใจ การแสดงความเข้าใจในความต้องการของผู้ฟัง และการสร้างแรงบันดาลใจผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้คุณและธุรกิจของคุณกลายเป็น ตัวเลือกอันดับแรกในใจของลูกค้า เมื่อพวกเขากำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.เพิ่มโอกาสในการสร้างเครือข่ายธุรกิจ
การพูดในที่สาธารณะเปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจได้แสดงความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ต่อผู้ฟังที่หลากหลาย ทั้งเจ้าของธุรกิจ ลูกค้า หรือแม้แต่ผู้นำในอุตสาหกรรมเดียวกันนอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงกับผู้ที่มีศักยภาพในการกลายมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ หรือนักลงทุนในอนาคต ที่อาจจะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหรือผู้ซื้อธุรกิจของคุณได้
เมื่อคุณพูดในที่สาธารณะ คุณจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆและขยายเครือข่ายสังคม ซึ่งบางครั้งอาจนำไปสู่โอกาสที่ไม่คาดคิด เช่น การแนะนำลูกค้าใหม่ ๆ หรือการเข้าร่วมในโครงการที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจในระยะยาว การสร้างเครือข่ายนี้จึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการขยายฐานลูกค้าและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เจ้าของธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน
3. สร้างการตลาดออแกนิคที่ได้ผลลัพธ์จริง
การพูดในที่สาธารณะถือเป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากการพูดในที่สาธารณะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารคุณค่าและความเชี่ยวชาญของแบรนด์ได้อย่างตรงไปตรงมาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ฟัง การที่คุณสามารถแชร์ประสบการณ์หรือเล่าเรื่องราวส่วนตัวจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าถึงคุณในระดับที่ไม่สามารถทำได้จากโฆษณาหรือการตลาดดั้งเดิม
โดยเฉพาะเมื่อคุณแบ่งปันคำแนะนำที่เป็นประโยชน์หรือเนื้อหาที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ผู้ฟังจะเริ่มมองคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของคุณ การสร้างความเชื่อมโยงแบบนี้ทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆและสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจในลักษณะที่ทรงพลังและมีความยั่งยืนกว่าแคมเปญการตลาดทั่วไป
ด้วยเหตุนี้การพูดในที่สาธารณะจึงเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความนิยมให้กับแบรนด์แต่ยังช่วยสร้างการรับรู้ในเชิงบวกและความเชื่อมั่นจากลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย
สรุปได้ว่าการพูดในที่สาธารณะจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล เพราะไม่เพียงแค่ทำให้ผู้ฟังรับรู้ถึงตัวตนและวิสัยทัศน์ของผู้นำเท่านั้นแต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนการสื่อสารผ่านเวทีช่วยทำให้แบรนด์มีชีวิตชีวาและมีเรื่องราวที่น่าจดจำซึ่งส่งผลให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับแบรนด์มากกว่าการสื่อสารผ่านช่องทางอื่นๆ เมื่อผู้พูดสามารถนำเสนอแนวคิดและคุณค่าที่สอดคล้องกับแบรนด์ได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับที่สตีฟ จอบส์ทำผ่านแอปเปิล การพูดในที่สาธารณะจึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และทำให้แบรนด์แข็งแกร่งในระยะยาว
About the author
Coach Poppy
A walking question mark, a vegan,
and a mother of 6 dogs.
ที่มา:
ขอขอบคุณภาพปกจาก Getty Images